ในโลกของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ผลิตพยายามพัฒนาไม่เพียงแค่ประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์ด้วย ปัจจุบันสมาร์ทโฟนไม่ได้เป็นเพียงพลาสติกหรือแผ่นอลูมิเนียมอีกต่อไป แต่ยังเป็นผลงานชิ้นเอกด้านวิศวกรรมวัสดุที่สร้างความสมดุลระหว่างสุนทรียศาสตร์ ความทนทานและฟังก์ชันขั้นสูง
เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในการผลิตโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันต่อไปนี้คือวัสดุล้ำสมัยบางส่วนที่นำมาใช้ในการออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด
วัสดุใหม่ๆ ที่ใช้ในการผลิตตัวเครื่องมือถือ:
โลหะผสมขั้นสูง:
อลูมิเนียมอัลลอยด์ซีรีส์ 7000: มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการกัดกร่อนและมีน้ำหนักเบา มักใช้ในโครงสร้างหลักของโทรศัพท์ระดับพรีเมียม
แมกนีเซียมอัลลอยด์: น้ำหนักเบากว่าอลูมิเนียม ให้ความแข็งแรงที่ดี และระบายความร้อนได้ดี มักใช้ในส่วนประกอบภายในและกรอบบางส่วน
ไทเทเนียมอัลลอยด์: มีความแข็งแรงและความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงมาก แต่มีต้นทุนสูง จึงมักใช้ในโทรศัพท์หรูหราหรือส่วนประกอบเฉพาะ
กระจกเสริมความแข็งแรง:
Corning Gorilla Glass Victus และรุ่นใหม่กว่า: ทนทานต่อรอยขีดข่วนและการตกกระแทกได้ดีเยี่ยม ถูกนำมาใช้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของโทรศัพท์
กระจก Schott UTG (Ultra-Thin Glass): มีความบางและยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับโทรศัพท์จอพับ
วัสดุคอมโพสิต:
คาร์บอนไฟเบอร์: น้ำหนักเบามาก แข็งแรง และทนทาน บางบริษัทเริ่มนำมาใช้ในกรอบโทรศัพท์เพื่อลดน้ำหนักโดยรวม
เซรามิก: มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อรอยขีดข่วน และให้ผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ มักใช้ในโทรศัพท์รุ่นพิเศษ
พลาสติกรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ: เพื่อความยั่งยืน ผู้ผลิตหลายรายหันมาใช้วัสดุรีไซเคิลในส่วนประกอบต่างๆ และศึกษาการใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติ
เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในการผลิตตัวเครื่องมือถือ:
การขึ้นรูปโลหะด้วยความแม่นยำสูง (CNC Machining): ช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนโลหะที่มีรูปทรงซับซ้อนและมีความแม่นยำสูง
การฉีดขึ้นรูปด้วยความดันสูง (High-Pressure Die Casting): เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นส่วนโลหะจำนวนมากที่มีรูปทรงซับซ้อน
เทคโนโลยีการเชื่อมขั้นสูง: เช่น การเชื่อมด้วยเลเซอร์ ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อวัสดุต่างชนิดกันได้อย่างแข็งแรงและสวยงาม
การเคลือบผิวด้วยเทคโนโลยี PVD (Physical Vapor Deposition): ช่วยให้ผิวของโทรศัพท์มีความทนทานต่อรอยขีดข่วน การกัดกร่อน และมีสีสันสวยงาม
การประกอบแบบอัตโนมัติ (Automated Assembly): ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของโทรศัพท์ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการผลิต
การพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing): มีบทบาทในการสร้างต้นแบบและการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนในจำนวนไม่มาก หรือชิ้นส่วนเฉพาะบุคคล
เทคโนโลยีการเคลือบกันน้ำและกันฝุ่น (Water and Dust Resistance Coating): ใช้สารเคลือบพิเศษและการออกแบบโครงสร้างเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำและฝุ่นละออง
นอกจากวัสดุและการผลิตตัวเครื่องแล้ว เทคโนโลยีสมัยใหม่ยังถูกนำมาใช้ในส่วนประกอบภายในของโทรศัพท์มือถืออย่างกว้างขวาง เช่น:
หน้าจอ: OLED แบบยืดหยุ่นและพับได้, เทคโนโลยี ProMotion ที่ปรับอัตรารีเฟรชแบบไดนามิก
ชิปประมวลผล: สถาปัตยกรรมที่เล็กลง (เช่น 3nm), หน่วยประมวลผล AI (Neural Engine)
กล้อง: เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น, ระบบซูมออปติคอลที่พัฒนา, การถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ (Computational Photography)
แบตเตอรี่: เทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบมีสายและไร้สาย, การจัดการพลังงานด้วย AI
การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3
เซ็นเซอร์: เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ, ระบบสแกนใบหน้า 3 มิติ
เทคโนโลยีเหล่านี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีความบางเบา แข็งแรง ทนทาน และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก