การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐาน ในขณะที่พื้นที่ในเมืองมีการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ พื้นที่ห่างไกลและชนบทหลายแห่งยังคงประสบปัญหาในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้จำกัดหรือไม่มีเลย นี่คือจุดที่อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเปลี่ยนแปลงโลก เข้ามาช่วยลดช่องว่างทางดิจิทัล
เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสมัยใหม่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเชื่อมต่อพื้นที่ห่างไกลหรือในสถานการณ์ที่โครงข่ายภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง เทคโนโลยีหลักๆ ที่ใช้ในปัจจุบันแบ่งตามระดับวงโคจรของดาวเทียมได้ดังนี้
1. ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit – LEO)
เป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีจุดเด่นเรื่องความเร็วในการเชื่อมต่อและค่าความหน่วง (Latency) ที่ต่ำกว่าดาวเทียมในวงโคจรสูง เนื่องจากดาวเทียมอยู่ใกล้โลกมากกว่า
ความสูง: อยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 180 – 2,000 กิโลเมตร
ข้อดี:
ค่าความหน่วงต่ำ (Low Latency): สัญญาณเดินทางไปกลับได้รวดเร็วกว่า ทำให้รู้สึกเหมือนใช้เน็ตภาคพื้นดิน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการตอบสนองทันที เช่น การเล่นเกมออนไลน์ หรือการประชุมวิดีโอ
ความเร็วสูง: สามารถให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงได้
ข้อเสีย:
จำนวนดาวเทียมมาก: เนื่องจากดาวเทียมโคจรเร็วและครอบคลุมพื้นที่ได้จำกัดต่อดวง จึงต้องใช้ดาวเทียมจำนวนมากมาทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย (Constellation) เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูง: การส่งดาวเทียมจำนวนมากขึ้นไปต้องใช้งบประมาณมหาศาล
ผู้ให้บริการหลัก:
Starlink (SpaceX): เป็นผู้นำในตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียม LEO มีดาวเทียมจำนวนมากในวงโคจรและให้บริการในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงมีการพัฒนาจานรับสัญญาณขนาดเล็กสำหรับพกพา (Starlink Mini)
OneWeb (Eutelsat OneWeb): เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายสำคัญที่เน้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม LEO โดยในประเทศไทยก็มีการร่วมมือกับ NT (บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)) เพื่อให้บริการ OneWeb
2. ดาวเทียมวงโคจรปานกลาง (Medium Earth Orbit – MEO)
วงโคจร MEO เป็นวงโคจรที่อยู่ระหว่าง LEO และ GEO
ความสูง: อยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 2,000 – 35,500 กิโลเมตร
ข้อดี: ค่าความหน่วงปานกลาง ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างกว่า LEO แต่ไม่เท่า GEO
การใช้งาน: มักใช้ในระบบดาวเทียมนำทาง (GPS, GLONASS, Galileo) มากกว่าการให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยตรงสำหรับผู้บริโภคทั่วไป
3. ดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า (Geostationary Orbit – GEO)
เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ใช้กันมานานแล้ว
ความสูง: อยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 35,786 กิโลเมตร
ข้อดี:
ครอบคลุมพื้นที่กว้าง: ดาวเทียมเพียงดวงเดียวสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างใหญ่ เนื่องจากดาวเทียมจะโคจรไปพร้อมกับการหมุนของโลก ทำให้ดูเหมือนหยุดนิ่งอยู่เหนือจุดเดิมตลอดเวลา
จำนวนดาวเทียมที่ใช้น้อยกว่า: ไม่จำเป็นต้องใช้ดาวเทียมจำนวนมาก
ข้อเสีย:
ค่าความหน่วงสูง (High Latency): สัญญาณต้องเดินทางไกลมาก ทำให้เกิดความหน่วงสูง ไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการการตอบสนองแบบเรียลไทม์
ความเร็วอาจไม่สูงเท่า LEO: โดยทั่วไปความเร็วจะไม่สูงเท่า LEO
ผู้ให้บริการ: บริษัทดาวเทียมสื่อสารแบบดั้งเดิมหลายราย เช่น Thaicom ยังคงให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม GEO
เทคโนโลยีเสริมและนวัตกรรมใหม่ๆ:
การส่งข้อมูลผ่านเลเซอร์ (Laser Communication): เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมด้วยกัน หรือระหว่างดาวเทียมกับสถานีภาคพื้นดิน ทำให้ได้ความเร็วสูงกว่าการใช้คลื่นวิทยุ
จานรับสัญญาณขนาดเล็กและพกพาได้: ผู้ให้บริการต่างๆ พยายามพัฒนาจานรับสัญญาณที่มีขนาดเล็กลง พกพาง่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา
เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสมัยใหม่มุ่งเน้นไปที่การลดค่าความหน่วงและเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ โดยมีดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) เป็นเทคโนโลยีหลักที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก